Coffee
สำหรับสายพันธุ์หลักของกาแฟที่ปลูกกันทั่วไปจะมีอยู่ด้วยกัน
2
สายพันธุ์ ได้แก่ กาแฟอาราบิก้า (Coffee arabica) และ
กาแฟโรบัสต้า (Coffee canephora) โดยกาแฟอาราบิก้าจะเป็นกาแฟที่ได้รับความในการนิยมดื่มมากกว่ากาแฟโรบัสต้า
เนื่องจากกาแฟโรบัสต้ามีรสชาติที่ขมกว่าและให้รสชาติได้น้อยกว่ากาแฟอาราบิก้า
ด้วยเหตุผลนี้ กาแฟที่เพาะปลูกกันเป็นจำนวนมากกว่า 3 ใน 4 ของโลก จึงเป็นกาแฟอาราบิก้า
แต่อย่างไรก็ตามกาแฟโรบัสต้าก็ยังสามารถพิสูจน์ได้ว่าก่อให้เกิดโรคได้น้อยกว่ากาแฟอาราบิก้า
อีกทั้งยังสามารถปลูกได้ในสภาพแวดล้อมที่กาแฟอาราบิก้าไม่สามารถเจริญเติบโตได้
ดังนั้นในธุรกิจกาแฟจึงมักจะใช้กาแฟโรบัสต้ามาทดแทนกาแฟอาราบิก้า
เพราะมีราคาถูกกว่า
กาแฟอาราบิก้า ชื่อสามัญ
ชื่อสามัญ coffee, kofi, koffie, Arabian coffee, Brazillian coffee
ชื่อวิทยาศาสตร์ Coffea arabica L. จัดอยู่ในวงศ์ RUBIACEAE
· ต้นกาแฟอาราบิก้า เป็นพืชพื้นเมืองของทวีปอัฟริกา
บริเวณประเทศเอธิโอเปีย แต่ชาวอาหรับเป็นชาติแรกที่นำกาแฟมาชงดื่ม
จึงทำให้ชื่อภาษาละตินของกาแฟใช้คำว่า อาราบิก้า
(arabica) ที่หมายถึงชาวอาหรับ โดยต้นกาแฟจัดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก
ที่มีความสูงของต้นประมาณ 2-4 เมตร
ในปัจจุบันเพาะปลูกกันมากในเขตร้อนชื้นและกึ่งเย็น
· ใบกาแฟอาราบิก้า ใบเป็นใบเดี่ยว
ออกเรียงตรงข้าม ลักษณะของใบเป็นรูปขอบขนานหรือรูปไข่ ปลายใบแหลม
โคนใบแหลมเล็กน้อย ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 8-12 เซนติเมตร
และยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร แผ่นใบเรียบเป็นมัน
บางครั้งเป็นคลื่น มีหูใบอยู่ระหว่างก้านใบ
· ดอกกาแฟอาราบิก้า ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ
กลีบดอกเป็นสีขาว ติดกันเป็นหลอด ดอกมีกลิ่นหอม
· ผลกาแฟอาราบิก้า ผลเป็นผลสด
ลักษณะของผลเป็นรูปไข่แกมรูปทรงกลม โดยผลอ่อนจะเป็นสีเขียว
แต่เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดง
กาแฟโรบัสต้า ชื่อสามัญ
Robusta coffee ชื่อวิทยาศาสตร์ Coffea canephora
Pierre ex A.Froehner
(ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์
Coffea robusta Pierre ex Froehner L., Coffea robusta L.Linden) จัดอยู่ในวงศ์ RUBIACEAE
· ต้นกาแฟโรบัสต้า ลำต้นเจริญเติบโตมาจากรากแก้ว
มีลักษณะเป็นข้อและปล้อง โคนใบจะอยู่ตามข้อของลำต้น เมื่อต้นโตขึ้นใบจะร่วงหล่นไป
โคนใบมีตา 2 ชนิด คือ ตาบนและตาล่าง
ตาบนจะแตกกิ่งออกมาเป็นกิ่งแขนงที่ 1 ลักษณะเป็นกิ่งนอนขนานกับพื้นดินมีข้อและปล้อง
แต่ละข้อจะมีกลุ่มตาดอกที่จะติดเป็นผลกาแฟต่อไป ส่วนตาล่างจะแตกออกเป็นกิ่งตั้ง
กิ่งจะตั้งตรงขึ้นไปเหมือนลำต้น และไม่ติดผล แต่สามารถสร้างกิ่งแขนงที่ให้ดอกผลได้
ซึ่งเรียกเป็นกิ่งแขนงที่ 1 เช่นกัน และกิ่งแขนงที่ 1
ยังสามารถแตกกิ่งแขนงต่อไปได้อีกเป็นกิ่งแขนงที่ 2 และกิ่งแขนงที่ 2 ก็สามารถแตกเป็นกิ่งแขนงที่ 3
ได้อีก
โดยกิ่งแขนงเหล่านี้จะเกิดในลักษณะเป็นคู่สลับเยื้องกันบนลำต้นหรือกิ่งตั้ง
เมื่อมีการตัดลำต้นกาแฟ ตาล่างบนลำต้นจะแตกกิ่งตั้งขึ้นมา
กิ่งก็จะแตกเป็นกิ่งแขนงที่ 1, 2 และ 3 จากนั้นก็จะมีการสร้างดอกและผลกาแฟต่อไป
โดยต้นกาแฟนั้นจะสามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด
· ใบกาแฟ ใบเป็นใบเดี่ยว
เกิดที่ข้อเป็นคู่ตรงข้ามกัน โคนใบและหลายใบเรียวแหลม ส่วนขอบใบหยักเป็นคลื่น
ตรงกลางใบกว้าง ผิวใบเรียบนุ่มเป็นมัน มีปากใบอยู่ด้านท้องใบ
แต่ละใบจะมีปากใบประมาณ 3 ล้านถึง 6 ล้านรู
โดยปากใบโรบัสต้าจะมีขนาดเล็กกว่าปากใบของกาแฟอาราบิก้า แต่จะมีจำนวนมากกว่า
อายุใบประมาณ 250 วัน ส่วนก้านใบนั้นมีขนาดสั้น
· ดอกกาแฟ ปกติแล้วดอกกาแฟจะออกเป็นดอกเดี่ยวสมบูรณ์เพศ
มีกลีบดอกประมาณ 4-9 กลีบ ส่วนกลีบเลี้ยงมี 4-5 ใบ
มีเกสร 5 อัน และมีรังไข่ 2 ห้อง
ในแต่ละห้องของรังไข่จะมีไข่ 1 ใบ ผลกาแฟจึงมีเมล็ด 2
เมล็ด ดอกจะออกเป็นกลุ่มๆ บริเวณโคนใบบนข้อของกิ่งแขนงที่1,
2 หรือ 3 กลุ่มดอกแต่ละข้อจะมีดอกประมาณ 2-20
ดอก
ดอกจะออกจากกิ่งแขนงจากข้อที่อยู่ใกล้กับลำต้นออกไปหาปลายกิ่งแขนง
โดยปกติแล้วต้นกาแฟจะออกดอกตามข้อของกิ่ง ข้อที่ออกดอกออกผลแล้วในปีต่อไปก็จะไม่ออกดอกและให้ผลอีก
· ผลกาแฟ ผลมีลักษณะเป็นรูปทรงรี
ก้านผลสั้น ผลดิบเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีส้ม และสีแดง
ผลกาแฟจะประกอบด้วยเปลือก เนื้อที่มีสีเหลือง (เมื่อสุกมีรสหวาน)
และกะลาที่ห่อหุ้มเมล็ด ช่วงระหว่างกะลากับเมล็ดจะมีเยื่อบางๆ ที่หุ้มเมล็ดอยู่
ซึ่งเราเรียกว่า เยื่อหุ้มเมล็ด ในแต่ละผลจะมี 2
เมล็ดประกับกันอยู่ ก้านที่ประกบกันจะอยู่ด้านในมีลักษณะแบน
มีร่องตรงกลางเมล็ด 1 ร่อง ส่วนด้านนอกโค้ง
ลักษณะของเมล็ดจะเป็นเมล็ดเดี่ยวหรือเมล็ดโทน ในบางครั้งหากการผสมเกสรไม่สมบูรณ์
จะทำให้ผลติดเมล็ดเพียงเมล็ดเดียว (คิดเป็นประมาณ 5-10%) ซึ่งจะมีลักษณะเป็นรูปกลมรีทั้งเมล็ด
มีร่องตรงกลาง 1 ร่อง เมล็ดจำพวกนี้จะเรียกว่า พีเบอร์รี่