"สื่อทำอะไรกับเรา...."
 

เขียนโดย Kedsaraporn Khumdee

ผลกระทบจากสื่อสู่สังคม สังคมในปัจจุบันนี้มีการเปิดรับสื่ออย่างหลากหลายและกว้างขวางมากขึ้นทำให้ธุรกิจต่างๆใช้ช่องทางที่หลากหลายให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุดโดยส่วนใหญ่ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ตามมาต่อสังคมต่อส่วนรวมหวังแต่จะเอาประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก โดยเพราะสื่อจำพวกภาพโฆษณาต่างๆ ซึ่งปกติแล้วภาพเหล่านี้จะเป็นการรวมตัวกันของภาพและข้อมูล ภาพเหล่านี้จะถูกประกอบเข้าด้วยกันจงใจเพื่อให้มีแรงจูงใจสูงสุดต่อคนดู โดยบ้างครั้งก็ลืมที่จะหวนกลับมาดูผลกระทบต่อสังคมว่ามันเลวร้ายแค่ไหน เพราะว่าสื่อนำเสนอภาพเหล่านี้จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาของสังคม จนทำให้เด็กที่กำลังเติบโตขึ้นมาในสังคมยุคปัจจุบันนี้มองเรื่องเสื่อมโทรมเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ที่เราเห็นอยู่ในสังคมอย่างเกลี่อนกลาด ละครโทรทัศน์แผร่ภาพนักแสดงกำลังดื่มเที่ยวตามร้านเหล้า หรือแม้กระทั้งภาพที่นักแสดงถูกมอมยา ภาพเหล่านี้เผยแพร่เป็นประจำจนทำให้ทุกวันนี้เด็กส่วนใหญ่มองเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาของสังคม และภาพเหล่านี้ยังถูกตอกย้ำให้เห็นความชัดเจนในสังคมปัจจุบันที่มีสถานบันเทิงยามค่ำคื่นต่างๆมาเปิดบริการใกล้กับโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย แต่แล้วในความเป็นตัว “สื่อ” เมื่อถูกวิจารณ์อย่างหนักหน่วงจากสังคม จากสังคมและนักวิชาการ ทำให้สื่อเหล่านี้ลุกขึ้นมาปฏิวัติตนเอง มองถึงสังคมมากขึ้น รับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น จะเห็นได้จาก ตามถนนเส้นทางต่างๆในอดีตจะมีป้ายโฆษณาเหล้าเบียร์ติดตามข้างทาง และโฆษณาตามสถานีโทรทัศน์ต่างๆก็ได้ห้ามโฆษณาสินค้าประเภทนี้แล้วเช่นกัน  โฆษณาบุหรี่ก็ถูกยกเลิกไปและมีการแสดงข้อความและภาพอันตรายที่เกิดจากบุหรี่ติดอยู่ข้างซองบุหรี่ เพื่อให้ผู้บริโภคและสังคมตระหนักถึงภัยอันตรายที่ถูกคุกคาม ซึ่งสื่อเหล่านี้จริงๆแล้วมันอยู่ใกล้ตัวเรามากจนเรารู้สึกเห็นภาพเหล่านี้เป็นภาพที่ชินตา เห็นอยู่ในกิจวัตประจำวันจนไม่รู้ว่าสื่อเหล่านี้มีผลกระทบต่อตัวเรามากเพียงใด เมื่อมองดูอย่างลึกซึ้งแล้ว ภาพประกอบเพียงภาพเล็กๆภาพเดียวที่สื่ออยู่บนซองบุหรี่ก็สามารถที่จะทำให้คนที่กำลังจะสูบหยุดที่จะหยิบซองมาอ่านดูก่อนที่จะสูบมันเข้าไป ซึ่งถ้าพูดถึงในความเป็นจริงแล้วมันอาจจะไม่ได้ช่วยซักเท่าไหร่สำหรับคนที่กำลังสูบอยู่ เพราะไม่ว่ารูปภาพจะน่ากลัวซักเพียงใดหรือข้อความที่เตือนจะมีความหมายมากน้อยแค่ไหนคนเหล่านี้ก็ไม่ได้สนใจที่จะหยุดสูบมันหรอก  แต่อย่างน้อยถ้ามันสามารถที่จะทำให้ผู้ที่กำลังหยิบซองขึ้นมาหยุดที่จะอ่านแล้วเตื่อนสติซักเล็กน้อยได้ซัก 1 คนใน 100 คน มองแค่1%มันก็มีค่ามีความหมายมากกว่าที่เราจะไม่ได้ทำอะไรเพื่อสังคมและมุ่งที่จะกอบโกยผลประโยชน์ต่อสังคมเพียงด้านเดียว