"ปาย" เมืองศิลปะ , อากาศดี , เมืองน่ารัก , ศิลปิน , ดนตรีเรกเก้ หรือเพียงแค่กระแสสังคมคำนิยามที่แต่ละคนพยายามนิยามเมืองนี้ให้เป็นดั่งที่ใจปรารถนาและใฝ่ฝันให้มันจะเป็น "ปาย" ถูกติดป้ายโฆษณาขึ้นในใจใครต่อใครหลายคนถึงความเป็นเมืองศิลป์ เมืองมีสไตล์ มีรสนิยม ทำให้ผู้คนแห่กันไปเพื่อที่จะสัมผัสถึงบรรยากาศและรู้ซึ้งถึงความจริงที่โฆษณาในใจถูกกล่าวขานขึ้น "ปาย" เมืองแห่งศิลปะ บางคนก็ดูดี บางคนก็เข้าท่า บางคนก็บ้าบอ บางคนก็เพ้อเจ้อ ในขณะที่งานศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวบ้านนั้นกลับถูกคนพวกนี้มองว่ามันไม่"อาร์ต"พอ "ปาย"เมืองแห่งดนตรี ที่มีทั้งบลูส์ แจ๊ซ ร็อค เพื่อชีวิต เร็กเก้-สกา รักโรแมนติค เปิกหมวก อินดี้ เล่นกันตั้งแต่รอบนอกไล่เข้ามาถึงเกือบตลอดช่วงของถนนคนเดิน ทิ้งให้กลุ่มผู้สูงอายุกับนักเรียนชนเผ่านั่งเล่นดนตรีพื้นบ้าน สะล้อ ซอ ซึง กับการรับบริจาคอย่างเงียบเหงาจากนักท่องเที่ยว "ปาย" เมืองแห่งคอนเสิร์ต ที่พอหนาวทีไร จะมีคอนเสิร์ตสารพัดมาลง ทั้งแนวรักโรแมนติก เร็กเก้-สกา อินดี้ โดยคนดูส่วนใหญ่มาจากเมืองหลวงเมืองใหญ่ แถมยังจัดกันถี่ยิบชนิดปายแทบแตก "ปาย"เมืองแห่ง อินดี้ ที่บรรดาร้านรวง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านโปสการ์ด ป้ายบอกทาง เสื้อผ้า ของที่ระลึก ต้องมีดีไซน์ มีไอเดีย จะเปิดขายแบบธรรมดาไม่ได้ ในขณะที่คนมาเที่ยวทำอะไรให้มันดูหลุดๆ แนวๆ ไม่งั้นเดี๋ยวไม่อินดี้ "ปาย"เมืองแห่งอีเวนต์ที่พวกเอเยนซี่ต่างหาช่องทางจัดงานหาเงินจากคนเมืองหลวงเมืองใหญ่ที่มาเที่ยวกันให้ควัก ทั้งจัดคอนเสิร์ต จัดแต่งงาน จัดงานศิลปะ จัดเทศกาลหนัง จัดงานหนังสือ จัดกิจกรรมลดโลกร้อน จากอดีต ปายเป็นที่รู้จักในฐานนะเพียงแค่ "เดสติเนชั่นใหม่" ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้นจากการบอกต่อของนักสำรวจถ้ำชาวออสเตรเลียที่ชื่อ "จอห์น สปีส์" ที่เป็นผู้บอกต่อให้กับเหล่าแบ็กแพ็คเกอร์ทั้งหลายที่แสวงหาความแปลกใหม่และรักในความชิลล์ แต่วันนี้ปายกลับผันตัวจากเมืองเกษตรในหุบเขาห่างไกล มาเป็นเมืองตากอากาศที่ไม่เหมือนใคร ด้วยฝีมือของกลุ่มผู้อยู่อาศัยรุ่นใหม่ที่ช่วยกันสร้างอัตลักษณ์ของเมือง ทำให้ทุกวันนี้คำว่า "ปาย" กลายเป็นแบรนด์ที่ขายดีแบบเทน้ำเทท่า ของที่ระลึกขึ้นชื่อจากเมืองปายวันนี้ไม่ใช่ผลไม้ แหนมสด หมูยอ หรือกระเทียมจากแหล่งปลูกพันธุ์ดี แต่เป็นสินค้าและบริการที่สร้างขึ้นโดยผู้ประกอบการสร้างสรรค์รายเล็กรายน้อยที่ผันไอเดียต่อยอดอัตลักษณ์ของปายให้กลายเป็นเม็ดเงินเลี้ยงชีพ เช่น เสื้อยืดโลโก้ "ปาย" ดีไซน์ต่างๆ แม่เหล็กติดตู้เย็น โปสการ์ดรูปวิวและของจิปาถะต่างๆ ที่มียี่ห้อ "ปาย" ติดอยู่ ศิลปะยุคหลังสมัยใหม่เหล่านี้ทำให้เราลืมนึกถึงคุณค่าของงานศิลป์ท้องถิ่นที่มีมาอย่างยาวนาน ลืมวัฒนธรรมที่มีมาหลายชั่วอายุคน เพียงแค่กระแสนิยมของคนกลุ่มหนึ่งลัทธิหลังสมัยใหม่นี้ที่เกิดขึ้นในเมืองปายได้เป็นเพียงเพราะเมืองเล็กๆแห่งนี้ขาวสะอาดและบอบบาง ทำให้ง่ายต่อการประกาศอิสรภาพทางความคิด มีความเป็นตัวตนของคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับวิถี คิดเก่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดและแนวทางของลัทธิสมัยใหม่ ลัทธิสมัยใหม่ที่เติบโตมาพร้อมกับบทบาทและอำนาจของชนชั้นกลาง และระบบโรงเรียนที่มีกรอบความคิดและหลักสูตรที่ผลิตคนในลักษณะมวลผลิต ลัทธิหลังสมัยใหม่ที่ก่อตัวขึ้นในเมืองปายและแสดงตัวอย่างเป็นสากล เป็นปรากฏการณ์ร่วมในกระแสวัฒนธรรมร่วมสมัยในปัจจุบันของเมืองปาย กระแสลัทธิหลังสมัยใหม่ลุกลามไปทางด้านสังคมศาสตร์ ความพยายามในการสร้างขบวนการประชาสังคม ประชาธิปไตยภาคพลเมือง การสร้างชุมชนให้เข้มแข็งแสวงหาความชอบธรรม แสวงหาอัตลักษณ์ในการคิด การอยู่ร่วมกัน การสร้างวัฒนธรรม ชุมชนที่มีความหลากหลาย ภาพซ้อนและพลวัตในสังคมและชีวิตความเป็นอยู่ศิลปะหลังสมัยใหม่ได้ดูดซับความคิด นำเสนอความคิด และการปฏิวัติทางศิลปะที่หลากหลาย แสดงบทบาทของศิลปะร่วมสมัยที่มีฐานปัญญาและทฤษฎีหรือแนวคิดเป็นด้านหลัก โดยที่มิได้คำนึงถึงกระบวนแบบดังเช่นศิลปะสมัยใหม่ ศิลปะมีความหลากหลายตั้งแต่การแสดงแนวคิดอย่างบริสุทธิ์ ไปจนถึงการแสดงภาพลักษณ์ของความคิด และเมื่อเมืองปายให้อิสรภาพและเสรีภาพแก่คนเหล่านี้มากขึ้น เมืองปายก็ย่อมสูญเสียบางสิ่งบางอย่างในอดีตไปด้วยเช่นกัน ศิลปะและวิถีชีวิตหลังสมัยใหม่เหล่านี้อาจจะต่อต้านหรือไม่เห็นด้วยกับการที่ศิลปะจะต้องเป็นสิ่งถาวร ศิลปะอาจจะเกิดขึ้นชั่วครู่ ศิลปะอาจไม่เกี่ยวข้องกับกาลเวลาในอดีต จิตรกรรม ประติมากรรม ศิลปะสมัยใหม่อาจเกี่ยวข้องกับพื้นฐานการปฏิบัติต่างๆ กลุ่มคนหรือศิลปินที่เข้าไปเมืองปายปัจจุบันนี้มีแนวโน้มที่จะผลักดันศิลปะให้พ้นกรอบของแบบแผนประเพณีนิยม พิพิธภัณฑ์ บ้าน อาคารธุรกิจ ศิลปะไม่จำเป็นต้องเป็นวัตถุสะสมในพิพิธภัณฑ์หรือในห้องสะสมศิลปะ ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งนิทรรศการตามแบบแผนเดิม ไม่จำเป็นต้องเป็นวัตถุที่นำไปแขวนหรือติดตั้งเบื้องหน้า ผู้คนจะต้องไปห้อมล้อมชื่นชมอย่างเป็นกิจลักษณะ ทำให้ปายทุกวันนี้สะท้อนความเป็นตัวตนในสังคมของคนกลุ่มหนึ่งมากขึ้นที่พยายามบอกว่าตัวเองคือศิลปินความเป็นปายทุกวันนี้ทำ
ให้สภาพอดีตเรียบง่ายกลายมาเป็นการแข่งขันทางธุรกิจจากนายทุนเมืองหลวงที่เข้ามากอบโกยความสงบและวิถีชีวิตความเป็นปายไปจนเกือบหมดสิ้น ร้านกาแฟสไตล์เก๋ มุมถ่ายภาพสุดแนว และโปสการ์ดที่ถูกส่งจากเมืองปายเพียงแค่ต้องการทำตามกระแส ทั้งที่จริงแล้วชีวิตนี้ไม่เคยจับปากกาเขียนจดหมายติดแสตมป์ จากคืนวันที่เปลี่ยนผ่าน ทำให้ปายก้าวจากยุคยูโทปายเข้าสู่ยุคโมเดิร์นปาย และกำลังเป็นยุคโพสท์โมเดิร์นปายที่ไม่เพียงแต่กลายเป็นเมืองแปลกหน้าของคนในพื้นที่เท่านั้น หากแต่ยังกลายเป็นเมืองที่จะดูไม่ค่อยโสภาสำหรับคนรักปายในยุคแรกๆอีกด้วย ทำให้ทุกวันนี้เราก็ต้องยอมรับกับสภาพปายแบบปลงๆว่ายุคสมัยใหม่นี้มีทั้งมุมมองที่น่ายลและไม่น่ายล ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน ซึ่งเราก็ไม่สามารถปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อาจจะด้วยเพราะประเทศของเราเป็นประเทศอุตสหกรรมการบริการ รายได้ส่วนใหญ่ของประเทศไทยมาจากการบริการและการท่องเที่ยว ซึ่งถ้ารายได้ส่วนนี้ถูกลดลงไปเศรษฐกิจไทยก็มีสิทธิ์ที่จะอ่อนแอลงได้เช่นกัน แต่ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวที่ต้องการอยากจะมาปายก็ยังมีแนวโน้มที่จะมาเมืองปายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรอบ 4-5 ปี ที่ผ่านมานี้ "ปาย" กลายเป็นเมืองทอล์คออฟเดอะทาวน์ของนักท่องเที่ยว ที่กำหนดกันทางสังคมของพวกเขาว่า "ต้องไปปาย" ใครไม่เคยไปปายถือว่าเชยเอ้าท์ ปายถูกนำไปโชว์ในไฮไฟท์ เฟสบุ๊ค มากที่สุดของไทยจึงทำให้การเป็น "ปาย" ทุกวันนี้จะสวยงามหรือไม่หรือจะคงสภาพเดิมและวิถีชีวิตของคนพื้นที่ได้มากเพียงใดก็มักจะขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกของนักท่องเที่ยวในการก้าวข้ามเข้าไปยังสถานที่นั้นมากกว่า ทำให้ปายทุกวันนี้จะสวยงามหรือไม่ จะคงความเป็นปายหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกของนักท่องเที่ยวและผู้คนที่เข้าไปค้นหาความเป็นปายทุกคน
|